"น้ำท่วม อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ความเสียหายเกิดขึ้นกับพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนของชาวบ้านครอบคลุมพื้นที่ 2 หมื่นไร่"
นั่นเป็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ออนไลน์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 ที่ทำให้ผมรู้ว่า สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร กำลังไหลท่วมอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย พื้นที่รอยต่อระหว่าง 2 จังหวัด
"หิน ดูน้ำท่วมนะ จุดไหนท่วมหนักเอาทีมไปไลฟ์ยูรายงานสดเข้ารายการเช้าได้เลย เช่นสถานการณ์ที่สุโขทัย"
เป็นคำสั่งจากพี่สมา ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ที่ได้เรียกผมเข้าไปคุยประเด็นข่าวประจำวัน แน่นอนว่าทันทีที่ได้รับคำสั่ง ผมและทีมต้องเตรียมตัวเดินทางด่วนไปยังอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย
"พี่เปิ้ลครับ เราต้องไปสุโขทัย ภายใน 4 ชั่วโมงนี้ เก็บของนะพี่ น้ำท่วมคีรีมาศ"
"พี่ไซครับสะดวกไหมพี่ เราต้องไปภายใน 4 ชั่วโมงนี้ "
"พี่ต่อครับ เราต้องไปไลฟ์ยูเช้าน้ำท่วมที่สุโขทัย แต่เราต้องเก็บข้อมูลคืนนี่้ เพื่อเอาไว้รายงานสดเช้า"
ผมรีบโทรหาทุกคนที่อยู่ในทีมข่าว ไม่ว่าจะเป็นพี่เปิ้ลช่างภาพ 1 พี่ไซช่างภาพ 2 พี่ต่อฝ่ายไอที เรามีเวลา 4 ชั่วโมงให้ทุกคนกลับบ้านไปเก็บสิ่งของจำเป็นของแต่ละคน
เวลาผ่านไป 4 ชั่วโมง ทุกคนเดินทางกลับมายังสถานี
"พี่เปิ้ลอุปกรณ์ขอเป็นกล้องp2 กล้องโกรโปร และโดรนถ่ายมุมสูง"
นักข่าวจะรู้ว่าก่อนออกไปทำงาน อุปกรณ์ชนิดใดที่จำเป็นบ้าง เราจะถ่ายอะไรบ้าง การระบุอุปกรณ์เป็นสิ่งสำคัญมาก แต่สำคัญกว่านั้น คือ ห้ามลืมอุปกรณ์สำคัญๆ เช่นถ้าคุณลืมไมค์ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่มีอุปกรณ์เก็บเสียง หากคุณลืมการ์ดกล้อง คุณจะมีแค่กล้องแต่ไม่มีการ์ดบันทึกไฟล์ภาพ ดังนั้นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละที่เราจะไม่มองข้าม แม้ว่าเวลาเร่งรีบก็ตาม เราควรเช็คอย่างละเอียด ถ้าไปถึงสนามข่าวแล้ว เรากลับลืมอะไรสักอย่าง มันจะเสียเวลายิ่งกว่าเรานั่งเช็คสิ่งของจำเป็นซะอีก
"พร้อมแล้วไปกันเลยพี่ เดี๋ยวเราใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงน่าจะถึงคีรีมาศ เผื่อแวะ และไม่รีบ เอาปลอดภัยทุกคน ผมนัดแหล่งข่าวไว้แล้ว ให้เเขาพาเราเข้าพื้นที่น้ำท่วมตอน 4 ทุ่ม อาจดึกหน่อยนะ เราต้องใช้ไฟส่องไปหาชาวบ้านน้ำท่วม อาจเหนื่อยหน่อย เป็นไปได้เราอาจนอนน้อยนะคืนนี้
ระหว่างนั่งรถไปยังอำเภอคีรีมาศ ผมแอบนึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปลายปี 2559 ครั้งนั้นมีฝนตกหนัก น้ำท่วมหลายพื้นที่ทางภาคใต้ ถนนเพชเกษมสายหลักลงภาคใต้ถูกตัดขาด รถบนถนนจมน้ำ น้ำป่าไหลหลากลงจากเขาอย่างฉับพลัน บ้านเรือนและสถานที่ราชการหลายแห่งถูกน้ำท่วม หมู่บ้านบางแห่งถูกตัดขาดจากกระแสน้ำป่าโดยเฉพาะโรงพยาบาลบางสะพานที่ต้องเร่งอพยพคนป่วยขึ้นตึกสูงในค่ำคืนนั้น
ผมและทีมงานเดินทางออกจากกรุงเทพราวตี 1 ไปยังอำเภอบางสะพาน แต่ด้วยฝนที่ตกกระหน่ำตลอดเส้นทางทำให้เราทำความเร็วไม่ได้ กระทั่งเวลาจวนจะเข้ารายงานสดช่วง 6 โมงเช้า สิ่งที่เราเผชิญ คือ น้ำป่าตัดถนน รถติดบนถนนเพชรเกษมทั้งขาขึ้นและขาลงนับ 10 กิโลเมตร เพราะถนนถูกตัดขาด 3 จุด
"เราต้องตั้งจีพีเอส ให้มันพาเราไปทางลัด ถ้าเราติดแบบนี้คงอยู่ข้ามวัน เราจะไปไม่ถึงโรงพยาบาลบางสะพาน"
พี่เปิ้ลช่างภาพพูดขึ้นมา ในสถานการณ์บีบบังคับให้พวกเราต้องรีบและเลือกว่าจะไปต่อหรือหยุด เพราะในทีมไม่มีใครชินเส้นทาง
"เอาซิ ไปทางลัด พี่จ้อนตัดเข้าไปในซอยนี่เลย จีพีเอสมันบอกตัดถึง รพ. บางสะพาน"
ผมเริ่มบอกให้พี่จ้อน ช่างภาพ 2 ขับรถตามเส้นทางลัดเพื่อเลี่ยงรถติด กระทั่งเราเริ่มตื่นกลัวมากไปกว่ารถติด เมื่อเส้นทางเบื้องหน้าเต็มไปด้วยมวลน้ำหลากท่วมถนนสูงเกือบครึ่งรถข่าวของเรา
เสียงน้ำหลากดังสนั่น ไม่มีชาวบ้านสักคนให้เราได้พึ่ง แม้จะมีพวกเขาคงช่วยอะไรเราไม่ได้ หากถูกกระแสน้ำพัดเราจริงๆ เพราะตอนนี้เวลาเกือบ ตี 4 มันเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านหลับนอน
"หิน เป็นไงบ้าง ถึงจุดรึยัง"
บก. โน๊ตโทรถาม เพื่อเช็คความพร้อม
"ตอนนี้รถเราอาจไปต่อไม่ได้ เพราะกระแสน้ำสูงและเชี่ยวครับ เดี๋ยวผมจะลองพยายามพารถไปให้ถึง รพ. บางสะพานนะครับ ยังไงผมติดต่อกลับนะครับพี่"
"ดูแลตัวเอง และทีมด้วย ขอบคุณทุกคน"
ทันทีที่ บก. วางสาย ผมก็เดินเท้าฝ่าสายน้ำเกือบถึงเอวไปตามถนน เพื่อให้รู้ว่ากระแสน้ำมันแรงและเชี่ยวขนาดไหน ผมนี่ก็บ้า ถ้าตัวเองโดนน้ำพัดคงหายไปกับความมืดแน่ๆ
กระแสน้ำบนถนนเส้นทางหลักไม่สูงเท่ากับในซอยลัด แต่ความเชี่ยวยังรุนแรงเหมือนเดิม อีก 500 เมตรเราจะถึง รพ. บางสะพาน แต่เรามีเวลาเพียง 30 นาทีจะต้องติดตั้งอุปกรณ์รอรายงานสดเข้ารายการ ผมและพี่ๆ ตัดสินใจเดินล่วงหน้าไปก่อน ส่วนพี่จ้อนก็ขับรถตามหลัง ส่องไฟให้พวกเราเดินฝ่าสายน้ำเชี่ยว พวกเรามาถึงบริเวณด้านหน้า รพ. บางสะพานที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก
ถ้ากระแสน้ำมันโหดร้ายกับพวกเราในคืนนั้น เราอาจจะจมหายไปกับสายน้ำที่เชี่ยว หรือไม่รถข่าวของพวกเราก็อาจจะถูกพัด อุปกรณ์ทุกอย่างเสียหาย แต่เมื่อผ่านมันมาได้ เราก็สามารถบอกกับตัวเองได้ว่า ถ้ามันมีงานที่ยาก อยากน้อยเราก็มีความทรงจำที่ยากกว่า
บทพิสูจน์น้ำท่วมที่อำเภอบางสะพานในปีนั้น จึงกลายเป็นบทพิสูจน์ของทีมข่าวในปีนี้
เราปักหลักรายงานสดสภาพน้ำท่วมในอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว และหลากมาตามทุ่ง เราใช้เรือลุงธนู ชาวบ้านผู้มีน้ำใจบรรทุกอุปกรณ์รายงานสด ไปยังจุดที่วิกฤตท่วมหนัก เพื่อให้ได้ภาพที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมากที่สุด
ไม่ว่าอุปสรรคปัญหามันจะเกิดขึ้นหนักหนาสาหัสเพียงใด ผมคอยบอกกับทีมเสมอว่า เราจะผ่านไปด้วยกัน ผ่านไปพร้อมกับรอยยิ้ม แม้จะผิดหรือสมหวัง เราจะยิ้มให้กับอุดมการณ์ของเรา
นั่นเป็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ออนไลน์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 ที่ทำให้ผมรู้ว่า สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร กำลังไหลท่วมอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย พื้นที่รอยต่อระหว่าง 2 จังหวัด
"หิน ดูน้ำท่วมนะ จุดไหนท่วมหนักเอาทีมไปไลฟ์ยูรายงานสดเข้ารายการเช้าได้เลย เช่นสถานการณ์ที่สุโขทัย"
เป็นคำสั่งจากพี่สมา ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ที่ได้เรียกผมเข้าไปคุยประเด็นข่าวประจำวัน แน่นอนว่าทันทีที่ได้รับคำสั่ง ผมและทีมต้องเตรียมตัวเดินทางด่วนไปยังอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย
"พี่เปิ้ลครับ เราต้องไปสุโขทัย ภายใน 4 ชั่วโมงนี้ เก็บของนะพี่ น้ำท่วมคีรีมาศ"
"พี่ไซครับสะดวกไหมพี่ เราต้องไปภายใน 4 ชั่วโมงนี้ "
"พี่ต่อครับ เราต้องไปไลฟ์ยูเช้าน้ำท่วมที่สุโขทัย แต่เราต้องเก็บข้อมูลคืนนี่้ เพื่อเอาไว้รายงานสดเช้า"
ผมรีบโทรหาทุกคนที่อยู่ในทีมข่าว ไม่ว่าจะเป็นพี่เปิ้ลช่างภาพ 1 พี่ไซช่างภาพ 2 พี่ต่อฝ่ายไอที เรามีเวลา 4 ชั่วโมงให้ทุกคนกลับบ้านไปเก็บสิ่งของจำเป็นของแต่ละคน
![]() |
สิ่งของจำเป็นถูกจัดเข้ารถแบบรีบๆ ก่อนออกจากบ้านมายังสถานี |
เวลาผ่านไป 4 ชั่วโมง ทุกคนเดินทางกลับมายังสถานี
"พี่เปิ้ลอุปกรณ์ขอเป็นกล้องp2 กล้องโกรโปร และโดรนถ่ายมุมสูง"
นักข่าวจะรู้ว่าก่อนออกไปทำงาน อุปกรณ์ชนิดใดที่จำเป็นบ้าง เราจะถ่ายอะไรบ้าง การระบุอุปกรณ์เป็นสิ่งสำคัญมาก แต่สำคัญกว่านั้น คือ ห้ามลืมอุปกรณ์สำคัญๆ เช่นถ้าคุณลืมไมค์ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่มีอุปกรณ์เก็บเสียง หากคุณลืมการ์ดกล้อง คุณจะมีแค่กล้องแต่ไม่มีการ์ดบันทึกไฟล์ภาพ ดังนั้นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละที่เราจะไม่มองข้าม แม้ว่าเวลาเร่งรีบก็ตาม เราควรเช็คอย่างละเอียด ถ้าไปถึงสนามข่าวแล้ว เรากลับลืมอะไรสักอย่าง มันจะเสียเวลายิ่งกว่าเรานั่งเช็คสิ่งของจำเป็นซะอีก
"พร้อมแล้วไปกันเลยพี่ เดี๋ยวเราใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงน่าจะถึงคีรีมาศ เผื่อแวะ และไม่รีบ เอาปลอดภัยทุกคน ผมนัดแหล่งข่าวไว้แล้ว ให้เเขาพาเราเข้าพื้นที่น้ำท่วมตอน 4 ทุ่ม อาจดึกหน่อยนะ เราต้องใช้ไฟส่องไปหาชาวบ้านน้ำท่วม อาจเหนื่อยหน่อย เป็นไปได้เราอาจนอนน้อยนะคืนนี้
![]() |
เรามุ่งหน้าออกจากกรุงเทพเวลาบ่าย 4 โมงเย็น |
ระหว่างนั่งรถไปยังอำเภอคีรีมาศ ผมแอบนึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปลายปี 2559 ครั้งนั้นมีฝนตกหนัก น้ำท่วมหลายพื้นที่ทางภาคใต้ ถนนเพชเกษมสายหลักลงภาคใต้ถูกตัดขาด รถบนถนนจมน้ำ น้ำป่าไหลหลากลงจากเขาอย่างฉับพลัน บ้านเรือนและสถานที่ราชการหลายแห่งถูกน้ำท่วม หมู่บ้านบางแห่งถูกตัดขาดจากกระแสน้ำป่าโดยเฉพาะโรงพยาบาลบางสะพานที่ต้องเร่งอพยพคนป่วยขึ้นตึกสูงในค่ำคืนนั้น
ผมและทีมงานเดินทางออกจากกรุงเทพราวตี 1 ไปยังอำเภอบางสะพาน แต่ด้วยฝนที่ตกกระหน่ำตลอดเส้นทางทำให้เราทำความเร็วไม่ได้ กระทั่งเวลาจวนจะเข้ารายงานสดช่วง 6 โมงเช้า สิ่งที่เราเผชิญ คือ น้ำป่าตัดถนน รถติดบนถนนเพชรเกษมทั้งขาขึ้นและขาลงนับ 10 กิโลเมตร เพราะถนนถูกตัดขาด 3 จุด
"เราต้องตั้งจีพีเอส ให้มันพาเราไปทางลัด ถ้าเราติดแบบนี้คงอยู่ข้ามวัน เราจะไปไม่ถึงโรงพยาบาลบางสะพาน"
พี่เปิ้ลช่างภาพพูดขึ้นมา ในสถานการณ์บีบบังคับให้พวกเราต้องรีบและเลือกว่าจะไปต่อหรือหยุด เพราะในทีมไม่มีใครชินเส้นทาง
"เอาซิ ไปทางลัด พี่จ้อนตัดเข้าไปในซอยนี่เลย จีพีเอสมันบอกตัดถึง รพ. บางสะพาน"
ผมเริ่มบอกให้พี่จ้อน ช่างภาพ 2 ขับรถตามเส้นทางลัดเพื่อเลี่ยงรถติด กระทั่งเราเริ่มตื่นกลัวมากไปกว่ารถติด เมื่อเส้นทางเบื้องหน้าเต็มไปด้วยมวลน้ำหลากท่วมถนนสูงเกือบครึ่งรถข่าวของเรา
![]() |
สภาพน้ำท่วมถนนในซอยหมู่บ้านก่อนถึง รพ. บางสะพาน 5 กิโลเมตร |
เสียงน้ำหลากดังสนั่น ไม่มีชาวบ้านสักคนให้เราได้พึ่ง แม้จะมีพวกเขาคงช่วยอะไรเราไม่ได้ หากถูกกระแสน้ำพัดเราจริงๆ เพราะตอนนี้เวลาเกือบ ตี 4 มันเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านหลับนอน
"หิน เป็นไงบ้าง ถึงจุดรึยัง"
บก. โน๊ตโทรถาม เพื่อเช็คความพร้อม
"ตอนนี้รถเราอาจไปต่อไม่ได้ เพราะกระแสน้ำสูงและเชี่ยวครับ เดี๋ยวผมจะลองพยายามพารถไปให้ถึง รพ. บางสะพานนะครับ ยังไงผมติดต่อกลับนะครับพี่"
"ดูแลตัวเอง และทีมด้วย ขอบคุณทุกคน"
ทันทีที่ บก. วางสาย ผมก็เดินเท้าฝ่าสายน้ำเกือบถึงเอวไปตามถนน เพื่อให้รู้ว่ากระแสน้ำมันแรงและเชี่ยวขนาดไหน ผมนี่ก็บ้า ถ้าตัวเองโดนน้ำพัดคงหายไปกับความมืดแน่ๆ
![]() |
พวกเราเดินทางใกล้ถึง รพ. บางสะพาน กระแสน้ำไหลเชี่ยวตัดขาด รพ. |
กระแสน้ำบนถนนเส้นทางหลักไม่สูงเท่ากับในซอยลัด แต่ความเชี่ยวยังรุนแรงเหมือนเดิม อีก 500 เมตรเราจะถึง รพ. บางสะพาน แต่เรามีเวลาเพียง 30 นาทีจะต้องติดตั้งอุปกรณ์รอรายงานสดเข้ารายการ ผมและพี่ๆ ตัดสินใจเดินล่วงหน้าไปก่อน ส่วนพี่จ้อนก็ขับรถตามหลัง ส่องไฟให้พวกเราเดินฝ่าสายน้ำเชี่ยว พวกเรามาถึงบริเวณด้านหน้า รพ. บางสะพานที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก
![]() |
พร้อมรายงานสถานการณ์น้ำท่วมบางสะพาน |
ถ้ากระแสน้ำมันโหดร้ายกับพวกเราในคืนนั้น เราอาจจะจมหายไปกับสายน้ำที่เชี่ยว หรือไม่รถข่าวของพวกเราก็อาจจะถูกพัด อุปกรณ์ทุกอย่างเสียหาย แต่เมื่อผ่านมันมาได้ เราก็สามารถบอกกับตัวเองได้ว่า ถ้ามันมีงานที่ยาก อยากน้อยเราก็มีความทรงจำที่ยากกว่า
บทพิสูจน์น้ำท่วมที่อำเภอบางสะพานในปีนั้น จึงกลายเป็นบทพิสูจน์ของทีมข่าวในปีนี้
![]() |
ทุกคนอดนอนทั้งคืนเพื่อรอรายงานสดที่อำเภอคีรีมาศ |
เราปักหลักรายงานสดสภาพน้ำท่วมในอำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว และหลากมาตามทุ่ง เราใช้เรือลุงธนู ชาวบ้านผู้มีน้ำใจบรรทุกอุปกรณ์รายงานสด ไปยังจุดที่วิกฤตท่วมหนัก เพื่อให้ได้ภาพที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมากที่สุด
![]() |
เราเดินทางกลับหลังจากรายงานสด ที่อำเภอคีรีมาศเสร็จ |
ไม่ว่าอุปสรรคปัญหามันจะเกิดขึ้นหนักหนาสาหัสเพียงใด ผมคอยบอกกับทีมเสมอว่า เราจะผ่านไปด้วยกัน ผ่านไปพร้อมกับรอยยิ้ม แม้จะผิดหรือสมหวัง เราจะยิ้มให้กับอุดมการณ์ของเรา
ความคิดเห็น